ผู้สร้าง Baldur’s Gate 3 เผย: เกมเกือบทั้งหมดควรขึ้นราคา! จริงหรือ?

คนสำคัญจาก Larian Studios, ผู้พัฒนาเกม Baldur’s Gate 3 ได้กล่าวว่า “เกือบทุกเกม” มีการประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริงและควรมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากงบประมาณการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น ข้อความนี้ยิ่งกระพือดีเบตเรื่องการตั้งราคาร้านค้าของวิดีโอเกม โดยเฉพาะกับการคาดเดาราคาของ GTA 6 ที่มีคนรอคอยอย่างมาก

ประเด็นสำคัญเรื่องการตั้งราคาเกม

ปัญหาการตั้งราคาเกมเป็นที่ถกเถียงมาหลายปี โดยเฉพาะตั้งแต่การขึ้นราคา AAA titles จาก $60 เป็น $70 ในยุคของ PlayStation 5 และ Xbox Series X/S หลายคนไม่พอใจกับการขึ้นราคานี้ โดยเห็นว่าการมี live-service games และ microtransactions มากขึ้นทำให้ไม่จำเป็นต้องมีราคาตั้งต้นที่สูงขึ้น

I think a game should be priced accordingly with its quality, breadth & depth. I’m not against higher prices, but this arbitrary uniformity just doesn’t make sense to me. It feels so unserious.

— Very AFK (@Cromwelp) August 26, 2024

ข้อสรุปหลัก

• ความคิดเห็นจาก Larian Studios: Michael Douse, Director of Publishing ของ Larian Studios บอกว่าเกือบทุกเกมควรมีราคาแพงขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายการพัฒนาเพิ่มขึ้น
• คาดการณ์ราคาของ GTA 6: Douse บอกเป็นนัยว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงกว่า $70 และมีข่าวลือว่าอาจจะสูงถึง $150
• เบื้องหลังของอุตสาหกรรม: ราคาที่ $60 สำหรับ AAA games ถูกตั้งในยุค Xbox 360/PS3 และเพิ่มเป็น $70 ในการเปิดตัว PS5 และ Xbox Series X/S
• การพิจารณาทางเศรษฐกิจ: นักพัฒนาและผู้จัดจำหน่ายบอกว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลหลักในการขึ้นราคา
• ข้อโต้แย้ง: ผู้เล่นบอกว่าการทำกำไรจาก live-service games และ microtransactions ควรชดเชยการขึ้นราคาตั้งต้น

การวิเคราะห์ลึกเกี่ยวกับความคิดเห็นของนักพัฒนา

ท่าทีของ Larian Studios ต่อการตั้งราคา

Michael Douse บอกว่าโครงสร้างราคามาตรฐานไม่สะท้อนถึงคุณภาพ กว้างขวาง และลึกซึ้งของเกมสมัยใหม่ เขาชี้ว่าถึงแม้ $70 เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่สะท้อนค่าจริงและความพยายามเบื้องหลังของหลายๆ เกมในระดับ AAA

“เกมควรถูกประเมินราคาตามคุณภาพ ความกว้างขวาง และความลึกซึ้ง,” กล่าวโดย Douse

GTA 6: เกมที่อาจเปลี่ยนเกณฑ์

Douse ยังคาดว่า GTA 6 ที่มีการพัฒนานานและงบประมาณสูง อาจจะเป็นตัวกำหนดราคามาตรฐานใหม่สำหรับเกม AAA ความซับซ้อนในการพัฒนาเกมอาจจะทำให้ราคาขายปลีกสูงกว่ามาตรฐาน $70 ในปัจจุบัน

ความกังวลจากชุมชนเกมเมอร์

คนเล่นเกมบอกว่าการเปลี่ยนไปใช้โมเดล live-service และ microtransactions ควรจะชดเชยความต้องการในการขึ้นราคาตั้งต้น อย่างไรก็ตาม ราคาตั้งต้นที่สูงขึ้นกลายเป็นจุดถกเถียง โดยเฉพาะสำหรับเกมที่มีคอนเทนต์และการเล่นซ้ำสูง

ผลกระทบต่ออนาคต

มูลค่าในการเล่นซ้ำและค่าภายใน

เมื่อราคาสูงขึ้น คนเล่นเกมก็จะพิจารณาค่าของเกมและระยะเวลาที่จะเล่นมากขึ้น เกมอย่าง Baldur’s Gate 3 ที่ให้อรรถรสในการเล่นหลากหลายและความหลากหลายในการจบเกม อาจจะช่วยให้ราคาที่สูงคุ้มค่า

ตัวอย่างจาก Baldur’s Gate 3:

• เวลาเล่น: หลายร้อยชั่วโมง
• ความหลากหลายของการจบเกม: 17,000 ความเป็นไปได้ในการจบเกม

แนวโน้มในอุตสาหกรรม

ด้วยการอภิปรายจากนักพัฒนาที่มีอิทธิพลอย่าง Larian Studios เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการตั้งราคาเกมตามค่าใช้จ่ายในการพัฒนา แทนที่จะใช้ราคาเดียวสำหรับทุกเกม การคาดเดาราคาของ GTA 6 อาจจะเป็นตัวชี้วัดและส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในวิธีการตั้งมูลค่าและการขายเกมในอนาคต

โดยสรุป ในขณะที่ดีเบตนี้ยังดำเนินไป อุตสาหกรรมอาจต้องหาสมดุลระหว่างการตั้งราคาที่เป็นธรรมและการชดเชยความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเกมสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูง